My Actifit Report Card: May 31 2024
23 เทคโนโลยีที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะปฏิวัตวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
มนุษย์ฉลาดขึ้นทุกวัน จนสร้างสิ่งต่างๆมากมายเพื่อตอบสนองตัณหาและความท้าทายทางปัญญา ด้วยมันสมองและความสามารถของคนเก่งๆ ที่อุุบัติขึ้นบนโลกใบนี้ บางอย่างส่งผลดีต่อวิถีชีวิต บางอย่างก็กลับมาเบียดเบียนและทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มนุษย์ทุกคนต่างมีสัญชาติญาณในการอยู่รอดและดำดำรงอยู่เสมอ เทคโนโลยีเป็นเพียงเปลือกของชีวิตเท่านั้น การไม่รับรู้การเปลี่ยนแปลงเลยก็ไม่ดี การตระหนกต่อการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็ไม่ดี สุดท้ายแล้วคือทางสายกลางดีที่สุด เราต้องยอมรับว่าชีวิตคือการปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและจะเร็วขึ้นกว่าในอดีต หลังจากหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็มาสะดุดที่เรื่องนี้ วันนี้ผมจึงขอนำมาเขียนและเล่าในสไตล์ของผม กับ 23 เทคโนโลยีที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะปฏิวัติและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน

- การฝังตัว (Implantable Technologies)
- ตัวตนทางดิจิทัล (Our Digital Presence)
- การมองเพื่อควบคุม (Vision as the New Interface)
- อินเทอร์เน็ตที่สวมใส่ได้ (Wearable Internet)
- คอมพิวเตอร์ที่พบได้ทั่วไป (Ubiquitous Computing)
- ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในกระเป๋ากางเกง (A Supercomputer in Your Pocket)
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลสำหรับทุกคน (Storage for All)
- The Internet of and for Things (IOT)
- บ้านที่เชื่อมต่อกับทุกอย่าง (The Connected Home)
- เมืองอัจฉริยะ (Smart Cities)
- ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตัดสินใจต่างๆ (Big Data for Decisions)
- รถไร้คนขับ (Driverless Car)
- ปัญญาประดิษฐ์ และการตัดสินใจ (AI and Decision-Making)
- ปัญญาประดิษฐ์และมนุษย์เงินเดือน (AI and White-Collar Jobs)
- หุ่นยนต์และการให้บรกิาร (Robotics and Services)
- Bitcoin และ Blockchain
- เศรษฐกิจแบ่งปัน (The Sharing Economy)
- รัฐบาลและ Blockchain
- การพิมพ์สามมิติ และการผลิต (3D Printing and Manufacturing)
- การพิมพ์สามมิติและสุขภาพ (3D Printing and Human Health)
- การพิมพ์สามมิติและสินค้าอุปโภคบริโภค (3D Printing and Consumer Products)
- การออกแบบมนุษย์ (Designer Being)
- Neurotechnologies
ที่มา: บริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย)จำกัด ประมวลจาก The Fourth Industrial Revolution, WEF, 2016
ถ้าจะเขียนทั้งหมดคงจะยาวไปจนไม่น่าอ่าน จะขอเล่าเป็นตอนๆ นะครับ เริ่มจากเทคโนโลยีแรกคือ เทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technologies) ไม่รู้ว่าคนเก่งๆเหล่านี้ คิดจากพื้นฐานอะไร แต่เมื่อคิดและพัฒนาขึ้นมาแล้ว ย่อมส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะมาช้าหรือมาเร็วนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมต่างๆที่จะเป็นองค์ประกอบให้สำเร็จและเข้าถึงความเป็นอยู่ของผู้คนได้จริงหรือไม่ และหากเทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technologies) เกิดขึ้นได้จริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ผู้คนจะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถเชื่่อมต่อกับร่างกายของมนุษย์ได้ และนี่คือ

10 เทคโนโลยีการฝังตัว (Implantable Technology)
Implantable Smartphones
::: ก่อนหน้านี้ ศิลปิน Anthony Antonellisได้ฝังชิป RFID ในแขนของเขา ซึ่งสามารถช่วยบันทึกและถ่ายโอนงานศิลปะขนาดเล็กไปยังสมาร์ทโฟนได้Smart Organs
::: ได้ทำความสำเร็จในการทำให้ผิวผู้ของป่วยจากแผลไหม้ สามารถสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่โดยไม่ต้องใช้ยาContraceptive Microchip
::: ชิปตัวเล็ก ๆ นี้จะปล่อยฮอร์โมนเพื่อคุมกำเนิดโดยใช้รีโมทคอนโทรลภายนอก โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเกตส์Healing Chips
::: ใช้ cyber-implants เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันมาร์ทโฟนเพื่อเฝ้าติดตามและรักษาโรคอาการอย่าง real time ทีมที่มหาวิทยาลัยบอสตันทดสอบตับอ่อน Bionic ใหม่มีเข็มขนาดเล็กและเซ็นเซอร์ซึ่งสื่อสารกับแอพพลิเคชันสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานBrain-computer Interface
:::เป็นการเชื่อมต่อสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นความฝันของนิยายวิทยาศาสตร์ ในโครงการ BrainGate และมีการพัฒนาส่วนติดต่อระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงความคิดไปสู่การปฏิบัติเพื่อช่วยคนพิการ และผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบก็สามารถเข้าถึงและจับวัตถุด้วยแขนหุ่นยนต์ได้ ซึ่งผู้ผลิตชิป Intel คาดการณ์การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และสมองจะเกิดขึ้นจริงในปี 2020Smart Tattoos
:::รอยสักแบบดิจิทัลไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังสามารถใช้งานที่มีประโยชน์ เช่นการปลดล็อกรถหรือป้อนรหัสผ่านในอุปกรณ์ต่างๆของเราCyber Pills
::: Proteus Digital Health ได้พัฒนาเซ็นเซอร์ที่กินได้ซึ่งมีไมโครโปรเซสเซอร์สามารถส่งข้อความไปยังแพทย์ได้ ยานี้สามารถแบ่งปันข้อมูลเพื่อช่วยผู้ดูแลผู้ป่วยได้ หากผู้ป่วยไม่ได้รับยาอย่างถูกต้อง และไม่มีผลค้างเขียงตามมาSmart Dust
:::ฝุ่นอัจฉริยะที่มีขนาดเม็ดเล็กกว่าเม็ดทรายซึ่งสามารถจัดอยู่ในร่างกายได้ และจะช่วยทำงานได้อย่างแม่นยำเพื่อดำเนินการภายในที่ซับซ้อน ในการโจมตีเซลล์มะเร็งในช่วงต้น เพื่อบรรเทาอาการปวดเนื่องจากการบาดเจ็บหรือแม้แต่การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อที่จะได้รับการป้องกันเข้ารหัสลับBiodegradable Battery
::: ทีมงานของ Draper Laboratory ในเคมบริดจ์กำลังดำเนินการเกี่ยวกับแบตเตอรี่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ พวกเขาสร้างพลังงานภายในร่างกายและจากนั้นก็ละลายได้โดยไม่ทำร้ายร่างกาย เป็นอีกโครงการหนึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณานั่นคือการใช้กลูโคสเพื่อเป็นพลังงานให้กับร่างกายID Chip
:::เทคโนโลยีนี้จะอนุญาตให้มีการระบุตัวบุคคลทุกคนผ่านแท็กสมาร์ท กองทัพสหรัฐมีโครงการที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อจัดหาทหารด้วยการฝังชิป RFID ในการติดตามกองกำลังโดยอัตโนมัติ
ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามกันนะครับ



