My Actifit Report Card: May 31 2024
อ่านโพสต์นี้จบ จะพบอนาคตใน Steemit.com
ผมได้อ่านบทความของน้อง @jammyth พูดถึงความท้อเนื่องจากความยากที่ไม่รู้จะเขียนอะไร บางทีก็นึกไม่ออกจริงๆ เป็นปัญหามากเลยสำหรับการใช้ Steemit.com แม้แต่คนที่เข้ามานานๆ อย่างผมก็มีปัญหานี้เช่นกัน ด้วยความรู้สึกว่าเราต้องโพสต์เนื้อหายาวๆ แค่คิดก็ท้อแล้ว แต่หลายคนก็มีเทคนิคต่างๆ กันไป เป็นความสามารถเฉพาะตัว เลียนแบบได้ แต่จะได้ผลหรือไม่ ก็ต้องลองดู เช่น
- บางคนเขียนบรรทัดละน้อย ขึ้นบรรทัดใหม่บ่อยๆ
- บางคนใช้ตัวหนาจะได้รู้สึกว่าตัวหนังสือเยอะ
- บางคนเขียน สองภาษา เข้าตำรายิงปืนนัดเดียว ได้ทั้งเก้ง กวาง (ตำราไหนของเอ็งว่ะ)
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าจะเขียนอย่างไรให้คนติดและอยากอ่านเรื่องราวของเรา อะไรคือสิ่งที่เขาจดจำเราได้ ซึ่งเราจะต้องมีสไตล์การเขียน เพื่อให้ผู้อ่านรับรูถึงแบรนด์เรา เช่น หากจะนึกถึงพี่อ้อม @sunisa ก็จะนึกถึงอาหาร เป็นต้น ลองคิดดูว่าจะทำให้เขานึกถึงเราได้อย่างไร เพราะถ้าเรายังไม่สามารถทำให้ใครจดจำเราได้เราก็จะถูกมองผ่านๆ (นึกถึงเพลง อยู่นอกสายตา แต่จำได้เท่านี้ 555)
ผมเองก็เช่นกันที่พยายามจะหาเทคนิคและวิธีการที่จะทำอย่างไรถึงจะมีเรื่องมาเขียนได้ทุกวัน เพราะบางวันก็มีเรื่องที่จะเขียนนะ แต่ไม่รู้จะเรียบเรียงอย่างไร อันนี้ก็อีกหนึ่งปัญหา วันนี้ผมคิดแบบแผนในการเขียนโพสต์ขึ้นมาจึงนำมาแบ่งปันหวังว่าจะได้ช่วยให้มีบทความที่น่าสนใจกันเยอะๆ และเป็นสังคมแห่งปัญญาในชุมชนไทยของเรา
อันนี้เป็นแบบฟอร์มในการวางแผนและเตรียมเนื้อหาในการโพสต์ในแต่ละวัน สำหรับจดบันทึกไว้ (อาจจะปรับเป็นแนวตั้งก็ได้นะครับ) เราไปดูวิธีการและความหมายของแต่ละช่องกันนะครับ
1. สิ่งที่เราชอบ ปัญหาที่พบเจอ
::: เริ่มจากความชอบ หรือปัญหาที่เราพบเจอในแต่ละวัน ลองลิสต์รายการเล่านี้เก็บไว้ดูนะครับ เพราะหากเราเริ่มอะไรแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด และง่ายต่อการคิดและดึงเรื่องราวออกมาจากความคิดของเรา
2. สิ่งที่เราจะส่งมอบให้ผู้อ่าน
::: เมื่อเรามีเรื่องราวที่เราชอบ หรือปัญหาที่เราพบเจอในแต่ละวัน ก็ลองคิดดูครับว่าสิ่งนี้มีประโยชน์อะไรบ้างที่เราอยากสื่อและส่งมอบให้ผู้อ่าน ลองเขียนเฉพาะเจาะจงเป็นข้อๆ ว่าเมื่ออ่านจบเขาจะได้อะไรบ้าง 1,2,3,4 ค่อยๆคิดออกมา จากนั้นเราก็เขียนโพสต์ให้ตอบโจทย์นี้ หรือใครชอบการเล่าเรื่องให้น่าติดตาม นี่เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาที่มีสไตล์การเขียนได้น่าติดตามและใช้ภาษาที่อ่านแล้วรู้สึกเพลินมากๆ ทำให้อยากรู้และอยากอ่านให้ จบลองศึกษาจากโพสต์ของเธอ @tookta ดูนะครับ
3. พาดหัวให้น่าสนใจ
::: ลองตั้งหัวเรื่องให้น่าสนใจและบันทึกไว้ โดยอาจจะใช้ประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับมาตั้งเป็นหัวเรื่อง หรือตั้งจากปัญหามาจี้จุด ให้หยุดอ่าน (การคล้องจองก็จะดึงดูดให้คนหยุดอ่านได้) และคำแนะนำจากนักการตลาดด้วยการใช้ตัวเลข เช่น 3 เหตุผลที่คนไม่อ่านโพสต์เรา
4.เนื้อหาที่จะโพสต์
::: ลองวางโครงสร้างการเขียนดูนะครับ เริ่มด้วยปัญหา ตามมาคือวิธีแก้ จบแบบพี่แจ้ด้วยเคำหวานๆ อะไรเทือกๆนี้ นะครับ
5. รูปภาพประกอบ
::: ลองใส่คำบรรยายลักษณะภาพที่ต้องการนำมาใช้ หรือจะเป็นคีย์เวิร์ดที่เราจะนำไปค้นหาภาพ
6. แหล่งอ้างอิง
::: หากเราไปหาข้อมูลหรือไปอ่านมาจากที่ไหน หรืออยากจะส่งลิ้งค์ให้ผู้อ่านไปศึกษาต่อได้ที่ไหน ก็บันทึกลิ้งไว้
7. หมวดหรือ Tag ที่ใช้
::: จดบันทึก Tag ที่คิดว่าสอดคล้องกับสิ่งที่เราชอบ หรือตรงกับวิธีการแก้ไขปัญหาที่เราต้องการจะส่งมอบให้ผู้อ่าน
การที่เราได้มาใช้ Steemit.com นั้นเป็นการเปลี่ยนนิสัยเรา ให้เป็นคนรักการอ่าน เพราะหากใครไม่อ่านก็เหมือนไม่ได้ Input อะไรเข้าสมอง แน่นอนย่อมไม่มี Output ที่จะนำมาเขียนเพื่อส่งมอบให้ผู้อ่าน และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายๆคนเข้ามาแล้วก็จากไป เพราะขี้เกียจอ่าน และไม่รู้จะเขียนอะไร หรือไม่ก็ขี้เกียจเขียน ผมอยากแนะนำให้ฝึกตนเองและอดทนซัก 3 เดือนนะครับ หลังจากนี้เราจะเป็นคนใหม่ที่มีความรู้มากขึ้นและอาจจะเป็นประโยชน์ในอนาคตข้างหน้าของเราได้
สำหรับแบบฟอร์มหรือแบบแผนที่นำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆในวันนี้ ด้วยความคิดที่ว่า การทำงานอะไรก็แล้วแต่หากมีการวางแผนและเตรียมการที่ดี ย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ก็อยากให้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ หรือหากมีข้อคิดเห็นก็แบ่งปันกันได้เพื่อประโยชน์ต่อชุมชนไทยของเรา
สุดท้ายอยากแนะนำโพสต์นี้ของพี่@cicy เขียนไว้ดีมากครับ เกี่ยวกับการเขียนโพสต์ คลิ๊กอ่าน
ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามกันนะครับ
.png)

.png)


.png)

