โลกหมุนไปตามความคิดของเรา เราคิดเช่นไรก็จะได้ผลลัพธ์เช่นนั้น

เราคิดสิ่งใดก็จะดึงดูดสิ่งนั้น ไม่รู้ว่ามีใครเชื่อเรื่องของกฏแห่งแรงดึงดูดบ้างหรือเปล่า ผมเองจำได้ว่าในวัยเด็กมักมีคนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ตอนนั้นก็ยังไม่รู้คำและยังตอบตัวไม่ได้ว่าชอบอะไร และอยากเป็นอะไร
รู้แต่ว่าในวัยเด็กนั้นที่บ้านเป็นคนมีฐานะ (ฐานะยากจนน่ะ) หลังจากเรียนจบ ม.3 พ่อและแม่ก็ไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนต่อ ทั้งๆที่เป็นคนที่รักการเรียนมากๆ แต่ทำงัยได้ในเมื่อไม่สามารถเรียนต่อได้ ก็ต้องดิ้นรนมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และในขณะทำงานก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองอยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเป็นนักลงทุนเล่นหุ้น นั่นคือความคิดในตอนนั้น แต่ก็เป็นเพียงแค่ความคิดและก็ปล่อยมันไป
jakra.jpg


ต่อมาตอนผมอายุ 37 ปี ก็ตัดสินใจจบชีวิตการเป็นลูกจ้าง และร่วมกันลงทุนทำธุรกิจกับพี่ที่นับถือคนหนึ่ง ซึ่งเปิดบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาและวางระบบงานและออกแบบพัฒนาซอฟแวร์ให้กับองค์กรต่างๆ ด้วยประสบการณ์ในการทำงานและเข้าใจระบบงานในองค์กรมากว่า 20 ปี หลังจากเดินหน้าทำธุรกิจได้สักพัก เริ่มเจอความยากเพราะทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเหมือนในแผนธุรกิจ หลังจากเข็นกันมาได้ 1 ปี เงินทุนหมุนเวียนเริ่มไม่พอ และเริ่มมีปัญหากันระหว่างหุ้นส่่วนที่มาร่วมหุ้นด้วยกันอีกหนึ่งคน สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อให้ตนเองทำต่อไปได้และเป็นครั้งแรกที่รู้จักกับคำว่าล้มเหลวอย่างเป็นทางการ ผมคิดว่านี่น่าจะเป้นความคิดที่เราคิดและดึงดูดทุกอย่างเข้ามาให้เรา แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จอาจเป็นเพราะผมไม่ได้คิดให้เห็นภาพของความสำเร็จ ในความคิดตอนนั้นคือความอยากเป็นนักธุรกิจและก็ได้เป็นตามความคิดจริงๆ
photo7.jpg


ต่อมาผมได้รู้จักโดยบังเอิญในการเล่นหุ้น เนื่องจากผมเองเคยทำ Affiliate Marketing คือการเป็นนายหน้าขายสินค้าออนไลน์กับ Amazon.com, clickbank.com และได้เห็นวิธีการทำงานของเหล่านักการตลาดออนไลน์ของต่างประเทศ มีอยู่วันหนึ่งผมได้เข้าไปในเว็บไซต์หนึ่ง ให้ผมกรอกอีเมล์และจะให้ผมดูวิดีโอวิธีการทำเงินนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง และผมก็ได้รู้จักเรื่องราวของการลงทุนในตลาด Forex เป็นครั้งแรก และเริ่มลงทุนและเป็นนักเล่นหุ้นในเวลาต่อมา แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดอีกตามเคย ดูแล้วเหมือนง่ายมาก เงินสามารถหาได้ภายใน 1 วินาที และแล้วผมก็สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมากอีกครั้ง และนี่เป็นครั้งที่สองที่ผมพบกับความล้มเหลวอีกครั้ง ซึ่งผมก็ดึงดูดมันมาอีกเช่นเคยโดยที่ผมก็ไม่ได้คิดถึงภาพความสำเร็จไว้ให้ชัดเจน คิดแต่อยากเล่นหุ้น แต่ไม่ได้คิดถึงความสุขและความสำเร็จที่ได้จากการเล่นหุ้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นความล้มเหลวเช่นเดียวกันกับความล้มเหลวในครั้งแรก
pexels-photo-241544.jpeg


ต่อมาเส้นทางการลงทุนก็ได้นำพาผมให้มารู้จัก STEEMIT.COM ครั้งนี้ผมได้เรียนรู้ผ่านความล้มเหลวมาแล้วถึงสองครั้ง ดังนั้นผมจะทำทุกอย่างๆ ระมัดระวัง และคิดและจินตนาการถึงภาพความสำเร็จที่ผมต้องการเพื่อให้กฏแห่งแรงดึงดูดนั้นได้ทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ ขอบคุณ @thaiteam @ricko66 @tooka @julee
Screenshot_16.png


จริงๆวันนี้ผมตั้งใจว่าจะเขียนเรื่อง ICO และแนะนำเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ ICO ทั้งของในประเทศและต่างประเทศ ขอยกไปเป็นวันหลังแล้วกันนะครับ ไม่รู้เหมือนกันเขียนไปเขียนมากลายเป็นเล่าชีวิตตัวเองซะงั้น หวังว่าเรื่องราวความล้มเหลวในชีวิตของผม จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ steemit ชาวไทยได้มีกำลังใจต่อสู้นะครับ โพสต์แรกของผมไม่มีใครกดโหวตให้เลย ผมจึงทิ้งมันไปถึง 4 เดือน แล้วกลับเข้ามาใหม่ จนมาได้ถึงวันนี้ และสามารถทำรายได้จากการโพสต์บทความมาอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ผมสามารถทำเงินได้กว่า 120,000 บาท (ไม่ได้จะมาอวดนะะครับ) แต่อยากให้คนใหม่ๆ มีกำลังใจ สู้ๆครับ

DQmV53wJNx7D4FADp2cMWqnVttp59zTZo8acWXeSgCHgeP9.png

โลกหมุนไปตามความคิดของเรา เราคิดเช่นไรก็จะได้ผลลัพธ์เช่นนั้น เพราะความคิดคือพลังงาน

DQmV53wJNx7D4FADp2cMWqnVttp59zTZo8acWXeSgCHgeP9.png

ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามกันนะครับ

giphy.gif