Steemit & Facebook ต่างกันอย่างไร

สวัสดีครับพี่น้อง steemains ชาวไทย หลังจากผมได้เข้ามาในสังคม steemit.com มาระยะหนึ่งแล้ว และเดิมทีก็ใช้ชีวิตอยู่บน Facebook มานาน ก็คิดเปรียบเทียบดู โดยใช้ความคิดส่วนตัวนะครับ ผิดถูกประการใดขึ้นอยู่กับประสบการณ์และวิจารณญาณของแต่ละท่าน
Pichat ADV.png

FaceBook แหล่งทำมาหากินของคนไทยยุคใหม่

ต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยทำมาหากินโดยอาศัยเครื่องมือ FB ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งมีหลากหลายสาขาอาชีพที่ใช้ FB เป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้าอาหาร ทั้งที่เกิดใหม่ด้วยเด็กรุ่นใหม่ หรือธุรกิจร้านอาหารดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจการสอนอาชีพต่างๆ ติวเตอร์ เกษตรกรยุคใหม่ หรือคนทั่วไปที่ใช้ FB ในการสร้างตัวตน สร้างแบรนด์ เหล่านี้คือผลประโยชน์ที่เราได้จาก FB

FaceBook แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารทั้งดีและไม่ดี

สังคมทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีเป็นเรื่องธรรมดา บน FB ก็เช่นกันเมื่อมีคนอาศัยอยู่จำนวนมากก็คนกลุ่มหนึ่งที่พยายามใช้เครื่องมือ FB สร้างความเสียหายให้กับสังคม ผู้คน ซึ่งเราคงไม่โทษว่า FB ไม่ดี แต่ด้วยความที่เป็นเสรีของยุคข้อมูลข่าวสาร ทำให้มีทั้งข้อมูลจริงและเท็จ บางครั้งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าอันไหนเท็จ อันไหนจริง ดังนั้นก่อนที่จะเชื่อหรือตัดสินใคร อาจจะต้องคิดด้วยใจเป็นกลาง อย่าเพิ่งเชื่อในทันทีที่ได้เห็นหรือได้อ่าน และรอความจริงให้ปรากฎก่อนที่จะดีที่สุดแล้วค่อยเชื่อหรือวิพากษ์วิจารณ์กัน

Steemit แหล่งสังคมสร้างสรรค์

พอผมมาพบกับ Steemit ผมรู้สึกว่านี่ก็เป็นแหล่งทำมาหากินแห่งใหม่เช่นกัน และที่สำคัญด้วยระบบของ Steemit มีการให้เครดิตสำหรับเนื้อหาและข้อมูลที่นำมาโพสต์ ด้วยการให้มูลค่าเป็นผลตอบแทน นั่นหมายความว่าหากคุณนำข้อมูลหรือสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ มาลงใน Steemit ย่อมไม่ได้รับการยอมรับ และสุดท้ายก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในสังคม Steemit

Steemit โอกาสของคนที่ไม่มีทุน

ผมคิดว่า Steemit ได้มอบโอกาสให้กับคนที่ไม่มีทุนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม ได้สามารถนำเรื่องราวในชีวิตมาโพสต์
ถือเป็นการขายในสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องใช้ทุนอะไรเลย นอกจากความคิด และเพิ่มเอติมเรื่องความคิดสร้างสรรค์เข้าไป ผมทำงานบริษัทเอกชนมาหลายสิบปี มีลูกน้องหลายร้อยคนที่มีชีวิตอยู่กับการเป็นพนักงานรายวัน วันละ 300 บาท และเขาคิดว่าตัวเองทำได้เท่านี้เพราะไม่มีเงินทุนที่จะไปทำธุรกิจอย่างอื่น ไม่มีความกล้าในการขายสินค้า ผมว่าที่นี่คืออีกโอกาสหนึ่งให้คนเหล่านี้สามารถสร้างรายได้รายวันๆละ 300 และนี่คืองานของยุคข้อมูลข่าวสารอย่างแท้จริง เป็นการก้าวข้ามยุคอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ ถ้าเขาเหล่านั้นรู้และคิดที่จะทำ

อยากเห็น Steemit Thailnad เติบโต

ผมอยากทำให้เกิดสังคม Steemit Thailand เติบโต เพราะผมอยากไม่อยากเห็นการพึ่งพาจากค่าแรงรายวันอีกต่อไป มันจะดีมากหากคนกลุ่มผู้ใช้แรงงานเหล่านี้รู้และเข้าใจ จะทำให้เขาสามารถทำเงินได้โดยไม่ต้องทำงานทั้งวัน ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัว และพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวให้ดีขึ้น มันอาจดูจะเป็นความคิดที่ไม่ง่าย แต่ก็อยากทำตามกำลังที่ทำได้

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว และอยากสร้างสังคม Steemit Thailand ให้เติบโตซึ่งเรามาช่วยๆกันนะครับ ผมอยากเห็นและอยากทำแบบนี้นะครับ

https://steemit.com/roadmap2018/@bahagia-arbi/a-letter-to-steemit-inc-build-and-support-global-communities

https://steemit.com/steempark/@hansikhouse/on-site-at-steem-park-korea

LOVE LOVE
@pichat